รีวิวเรื่อง Don’t Look at the Demon ฝรั่งเซ่นผี

รีวิวเรื่อง Don’t Look at the Demon อีกหนึ่งหนังสยองขวัญที่เข้าโรงในสัปดาห์นี้ มีความน่าสนใจตรงที่เป็นหนังฝรั่งที่มีกลิ่นอายการเล่าเรื่องความเชื่อละแวกบ้านเรา เพราะผู้สร้างหลงใหลในหนังผีโซนอาเซียนและหยิบนำเอาความหลอนท้องถิ่นไปสร้างเป็นหนังในรูปแบบของเขา และกลายออกมาเป็น “Don’t Look at the Demon ฝรั่งเซ่นผี” ที่อ้างอิงว่านำมาจากพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ที่น่ากลัวและถูกสั่งห้ามเด็ดขาด หนังฝรั่ง

เล่าเรื่องราวของทีมนักล่าผีจากอเมริกาที่บินข้ามโลกมาพิสูจน์เคสจับวิญญาณที่ประเทศไทยและมาเลเซียก่อนที่จะต้องเจอกับอาถรรพ์เฮี้ยนจัดในแบบที่พวกเขาไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนจนหนึ่งในสมาชิกของทีมโดนผีเล่นงานเข้าอย่างจังเดือดร้อนถึงพระสงฆ์ชาวไทยผู้แกร่งกล้าในอาคมที่ต้องยื่นมือเข้ามาต่อสู้กับวิญญาณที่กำลังแผลงฤทธิ์

ผลงานการกำกับและเขียนบทโดย “แบรนโด ลี” ผู้กำกับชาวมาเลเซีย ที่รับหน้าที่เกือบจะทุกอย่างในหนังเรื่องนี้ เขาบอกว่ากลั่นครองเรื่องราวมาจากประสบการณ์โดยตรงที่เขาเคยพบเห็นและสัมผัสมาตั้งแต่ตอนเด็ก กลายออกมาเป็นหนังผีที่มีกลิ่้นอายความเป็นอาเซียนอบอวลไปทั้งเรื่อง โดดเด่นด้วยการได้นักแสดงจากฝั่งฮอลลิวูดมาแสดง แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นนักแสดงเกรดรอง ๆ

ก่อนอื่นก็คงจะต้องยกนิ้วให้กับไอเดียและคอนเซ็ปต์ของ Don’t Look at the Demon ฝรั่งเซ่นผี เพียงแต่ว่าน่าเสียดายเหลือเกิน ที่ดันมาหยิบจับเล่นหนังแนวนี้ในภูมิภาคที่จัดได้ว่าสร้างหนังผีได้เฮี้ยนติดอันดับต้น ๆ ด้วยการยอมรับจากคอหนังทั่วโลกไปแล้ว ดังนั้นเมื่อหนังเรื่องนี้ถูกผลิตออกมา มันจึงกลายเป็นหนังที่ค่อนข้างออกไปในทางหนังเกรดบีไปสักหน่อย ทั้งโปรดักชั่นต่าง ๆ และแคสติ้งนักแสดง

ก็ยังจัดได้ว่าซ้ำซากจำเจไปสักหน่อย เหมือนเป็นการหยิบเอาหนังผีดัง ๆ จากฝั่งเอเชียและฮอลลิวูดมายำรวมกัน แต่กระนั้นก็ต้องปรบมือให้กับการใส่จังหวะความหลอนและดีไซน์ฉากน่าสะพรึงกลัวไปได้อย่างสุดขั้ว นี่จึงเป็นจุดเด่นและจุดดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ไปแล้ว ดูหนังออนไลน์ เพราะถือว่าขยี้ได้ถึงแก่นและใส่ได้จัดเต็ม

รีวิวเรื่อง Don’t Look at the Demon แม้ว่าส่วนประกอบด้านอื่น ๆ ของหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างไม่มีอะไรน่าจดจำเลย การเล่าเรื่องและโครงเรื่องที่จำเจไม่หน่อย หยิบเอาปมบ้านผีสิงเฮี้ยนมาเชื่อมโยงกับความเชื่ออาถรรพ์สไตล์เอเชีย ที่ทำได้แค่เกือบสมจริงเท่านั้นเอง อีกจุดที่ขัดใจหน่อย ๆ อาจจะเพราะว่าเราเป็นคนไทยด้วยกระมั้ง เพราะหนังอ้างมีฉากหลังเป็นเหตุเกิดขึ้นในมาเลเซีย แต่ภาษาที่ 3 ที่หนังเลือกมาใช้นั้นกลายเป็นภาษาไทย

ด้านการแสดงของทีมแคสติ้งของหนังเรื่องนี้ แทบไม่มีอะไรเลย ที่เห็นจะมีชื่อเสียงที่สุดแล้วก็คงจะเป็น “แฮร์ริส ดิกคินสัน” ที่มาแสดงเอาไว้ตั้งแต่สมัยก่อนที่เขาจะเดบิวต์แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวซ้ำ (ทราบว่าหนังถ่ายทำไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด) ทีมนักแสดงหลาย ๆ คนค่อนข้างโนเนมไปสักหน่อย การแสดงของพวกเขาก็จัดได้ว่าธรรมดา ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ก็ทุ่มเทให้กับบทบาทที่รับเต็มที่

ก็จัดได้ว่าเป็นหนังผี ที่ทำหน้าที่ในการเป็นหนังผีได้ตามมาตรฐาน โปรดักชั่นและการตัดต่อหลาย ๆ จุดนั้น ก็ออกจะดูเชยและจังหวะค่อนข้างเก่าไปสักหน่อย เป็นลูกเล่น jump scare ที่ไม่น่าจะเอามาใช้ในหนังยุคนี้แล้ว แต่พอหนังจับจังหวะและดำดิ่งเข้าสู่ความน่ากลัวของเรื่องนั้น

เป็นหนังที่น่าผิดหวังก็คงจะไม่ได้ เพราะหนังก็มีกิมมิกและเสน่ห์แบบเชย ๆ ที่น่าหลงใหลของตัวเองอยู่เหมือนกัน เพียงแค่ว่าจังหวะของหนังเรื่องนั้นยังไม่ชวนทำให้ประทับใจและน่าจดจำสักเท่าไหร่นัก ออกจะเป็นหนังผีเชย ๆ ซ้ำซากและมีกลิ่นความเป็นหนังเกรดรองไปสักนิด แต่ถ้าได้ลองเปิดใจดูก็จะพบว่ามันเป็นหนังที่ยังดูสนุกได้ในตัว ยิ่งมาเล่นปมความหลอนใกล้ ๆ ตัวคนไทยด้วย หนัง2022 ก็น่าจะเข้าถึงจุดนี้ได้ไม่ยากเลย

ประเภท: สยองขวัญ

ผู้กำกับ: แบรนโด ลี

นำแสดงโดย: ฟิโอน่า เดอริฟ, แฮร์ริส ดิกคินสัน, จอร์แดน เบลฟิ

บทความที่น่าสนใจ รีวิวเรื่อง ๑๐๐ ร้อยขา