ดูหนังออนไลน์ 1917 (2019) หนึ่งเก้าหนึ่งเจ็ด มหาสงครามสะเทือนโลก

เรื่องย่อ : ดูหนังออนไลน์ 1917 (2019) หนึ่งเก้าหนึ่งเจ็ด มหาสงครามสะเทือนโลก

ดูหนังออนไลน์ 1917 (2019) หนึ่งเก้าหนึ่งเจ็ด มหาสงครามสะเทือนโลก อีกหนึ่งมุมของสงครามโลกครั้งที่ 1 ถ่ายทอดโดย “แซม เมนเดส” ผู้กำกับ “Skyfall” เปิดรอบฉายพิเศษ 23-29 ม.ค.นี้ ฉายจริง 30 เดือนมกราคม 2563 ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ . แชม เมนเดส ผู้กำกับรางวัลออสการ์ที่เคยส่งผลงานอย่าง Skyfall, Spectre แล้วก็ American Beauty พรีเซ็นท์มุมมองที่ผิดแผกแตกต่างในรูปภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ในรูปภาพยนตร์ 1917 โดยได้ โรเจอร์ ดีรับประทานส์ ผู้กำกับภาพผู้ครอบครองรางวัลออสการ์ รับหน้าที่ผู้กำกับภาพ ภาพยนตร์ถ่ายทอดมุมมองของการทำศึกโดยใช้การเล่าราวแบบเรียลไทม์ เป็นภาพยนตร์เล่าแบบช็อตเดียว ซึ่งจะก่อให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามรบ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารอังกฤษ มี สคอฟิลด์ (จอร์จ แมคเคย์ จาก Captain Fantastic) และก็ เบลก (ดีน-ชาร์ลส์ แชปแมน จาก Game of Thrones) ได้รับมอบหมายให้ไปร่วมกระทำการที่ดูท่าบางทีอาจไม่มีวันเสร็จ พวกเขาจะต้องข้ามเขตแดนของศัตรู เพื่อส่งข่าวสารเพื่อหยุดการจู่โจมทหารนับร้อย 1917 ดูแลโดยแซม เมนเดส ที่เขียนบทร่วมกับคริสตี้ วิลสัน-ห่วงใยน (จาก Showtime’s Penny Dreadful) ภาพยนตร์อำนวยการสร้างโดย แชม เมนเดส, พิปพา แฮร์ริส (ร่วมอำนวยการสร้าง Revolutionary Road ดูแลงานสร้าง Away We Go) เจย์น-แอนน์ เทงเกรน (ร่วมอำนวยการสร้าง The Rhythm Sectionแล้วก็ Skyfall), คัลลัม แมคดูกัล (บริหารสร้าง Mary Poppins Returns และก็ Skyfall), ไบรอัน โอลิเวอร์ (บริหารสร้าง Rocketman, Black Swan)

MovieHD ดูหนังออนไลน์ ดูหนัง หนังไทย หนังฝรั่ง หนังการ์ตูน หนัง18+ หนังเอเชีย ซีรี่ย์เกาหลี Movie HD หนังชนโรง เลือกชมภาพยนต์เรื่องอื่นๆ ได้อีกมากมาย ที่ หมวด หนังฝรั่ง สุดยอดภาพยนต์ออนไลน์คุณภาพจาก เรา SLOTXO

เนื่องจากไม่มีจังหวะดูภาพยนตร์ประเด็นนี้มาก่อน ทำให้พวกเราเลือกใช้คำว่า ‘สุดกลับ’ ในวันที่รู้ดีว่า 1917 เอารางวัลภาพยนตร์เยี่ยมจำพวกดราม่า จากงาน Golden Globes 2020

จนได้มองประเด็นนี้จนถึงจบถึงได้รับรู้ว่า โน่นเป็นการนำดหัวข่าวที่คลาดเคลื่อนไปเป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่า 1917 ไม่ใช่ม้ามืดที่อยู่นอกสายตา แต่ว่าได้ผลสำเร็จงานที่ ‘คู่ควร’ กับการยินยอมรับ รวมทั้งพวกเราจะไม่สนเท่ห์ใจเลย ถ้าเกิดได้ยินชื่อ 1917 ดังขึ้นอีกที กับรางวัลภาพยนตร์ดีเลิศบนเวทีออสการ์ในปีนี้

1917 ประกาศชัดตั้งแต่เรื่องย่อว่า นี่เป็นภาพยนตร์การรบที่มีจุดหมายอยู่ที่การ ‘ไม่รบ’ โดยการให้ผู้ชมติดตามภารกิจของ เบลก (ดีน ชาร์ลส์-แชปแมน) และก็ สกอฟิลด์ (จอห์น แมคเคน) สองพลทหารที่ได้รับมอบหมายให้วิ่งฝ่าสนามรบ, สนามเพลาะ, ห่าลูกกระสุน ป่าดงระเบิด เพื่อแจ้งข่าวให้กองทัพข้างตนเองที่หลบอยู่อีกฝั่งหยุดการจู่โจม ก่อนที่จะทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนของศัตรู

เส้นเรื่องทั้งปวงมีเท่านั้นเอง แม้กระนั้นผู้กำกับ แซม เมนเดส ผู้กำกับภาพ โรเจอร์ ดีรับประทานส์ แล้วก็คณะทำงานทั้งหมดทั้งปวง สามารถเล่า ‘เท่านั้น’ เพื่อสะท้อนให้มองเห็นความเจ็บ สูญเสีย รวมทั้งความเป็นจริงอันไม่มีคุณค่าของการรบราฆ่ากันออกมาได้อย่างทรงอำนาจอย่างมาก

โดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่ถูกเอ่ยถึงเยอะที่สุดเป็น การถ่ายทำแบบช็อตเดียวสม่ำเสมอ (A One-Shot หรือ Continuous Shot Feature Film) ที่ใช้การถ่ายแบบ Long Take หลายๆฉากมาประกอบกันด้วยแนวทางการตัดต่อให้เหตุทั้งปวงเกิดขึ้นต่อเนื่องกันอีกทั้งเรื่องแบบเนียนกริบ ผู้ชมไม่ทันทราบเลยว่าสั่งคัตกันตอนไหน

การเล่าเรื่องทั้งสิ้นแบบสม่ำเสมอไม่มีตัดสลับ ทำให้มีความรู้สึกว่า พวกเราไม่ใช่คน ‘สังเกตการณ์’ หรือผู้ฟังเรื่องเล่า แม้กระนั้นได้เข้าไปอยู่ในสนามรบร่วมกับสองพลทหารนั้นจริงๆไม่มีอดีตกาล ไม่มีอนาคต มีแต่ว่าปัจจุบันนี้ที่ผู้แสดงจะต้องพบ จะต้องมองเห็น ได้ยินอะไร พวกเรารับทราบไปพร้อมๆกับพวกเขาทั้งสิ้น

การได้มองเห็นความทุกข์ยาก อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ลูกปืนที่ไม่ทราบจะพุ่งมาเวลาใด ศพมากมายอันน่าเกลียด ร่วมกับนักแสดงแบบไม่มีจุดให้พัก ยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้มีความคิดเห็นว่า สนามรบเป็นพื้นที่เหนือเวลาที่เข้ามาแล้วไม่อาจจะออกไปได้อย่างง่ายๆไม่ว่าจะเข้าด้วยความมุ่งมั่นหรือเปล่าตั้งอกตั้งใจก็ตาม

เพราะว่ามีอยู่หลายหน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งพักหลังๆ) พวกเรารู้สึกเหน็ดเหนื่อย ต้องการพักชั่วประเดี๋ยว ไม่ได้อยากต้องการติดตามรับทราบแรงกดดันในภารกิจนี้อีกแล้ว บางช่วงพวกเราก็รู้สึกเสมือนพวกเรากำลังมองภาพยนตร์ทริลเลอร์มากยิ่งกว่าการทำศึกด้วย

ถ้าเกิดเป็นภาพยนตร์ทริลเลอร์ตามธรรมดา พวกเราจะเพียงพอเล็งได้ว่า ตอนไหนจะมีจัมป์สเอ็งร์ออกมา ให้ปิดตาคอยได้เป็นช่วงๆแต่ว่ากับประเด็นนี้ พอเพียงทุกๆอย่างต่อเนื่องกันไปหมด พวกเราคาดการณ์มิได้เลยว่าจะกำเนิดอะไรขึ้นบ้าง

ซึ่งเอาจริงเอาจังๆพวกเราในฐานะผู้ชม ยังสามารถเลือกหลับตา หรือเดินออกมาจากโรงได้เสมอ หากรู้สึกทนไม่ได้จริงๆแต่ว่าพลทหารในสนามรบจริงมิได้โชคดีมีทางเลือกอย่างพวกเรา พวกเขาถูกบังคับให้เดินหน้าแล้วก็เสี่ยงตายถัดไปเรื่อยเพราะเหตุว่ามีเวลาเป็นศัตรู มีชีวิตของเพื่อนร่วมชาติเป็นพนัน

พวกเรายังไม่กล้าฟันธงว่า ท้ายที่สุด 1917 จะไปได้ไกลถึงรางวัลภาพยนตร์เหมาะสมที่สุดจากงานออสการ์ปีนี้หรือไม่ แม้กระนั้นเพียงพอจะเชื่อมั่นได้ว่า จาก 10 รางวัลที่เข้าชิงทั้งผอง พวกเราจะได้ยินชื่อของ โรเจอร์ ดีรับประทานส์ ดังขึ้นในฐานะผู้ชนะรางวัลถ่ายรูปดีที่สุดเป็นครั้งที่ 2 ต่อจาก Blade Runner 2049 อย่างไม่ต้องสงสัย

ต่อจากนี้ 1917 จะเปลี่ยนเป็นภาพยนตร์ที่ถูกฉายบ่อยๆในคลาสเรียนภาพยนตร์ เพื่อเฉือนทุกส่วนประกอบ อีกทั้งการถ่ายรูป, ตัดต่อ, โปรดักชันวางแบบ, CGI, ดนตรีประกอบ รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเพื่อการสร้างหนังระดับนี้ขึ้นมาสักเรื่องหนึ่ง

แล้วก็ 1917 ก็จะได้ผลสำเร็จงานอีกเรื่องหนึ่งที่จะถูกเอามาเอ๋ยถึงอยู่ทุกหน เมื่อกล่าวภาพยนตร์การสู้รบสุดคลาสสิกที่เอ่ยถึงความเสียเปล่าของการรบ ลักษณะเดียวกันกับที่ Saving Private Ryan (1998) แปลงเป็นภาพยนตร์การสู้รบในดวงใจของคนอีกจำนวนไม่น้อย

ภาพยนตร์ที่เป็นเสมือนจดหมายส่งไปบอกเหล่าหัวหน้าสุดยอดว่า สิ่งที่ควรจะที่สุดไม่ใช่การมอบเหรียญตราชื่นชมเกียรติยศ แต่ว่าเป็นการทำยังไงก็ได้ ไม่ต้องให้มีนายทหาร หรือผู้ใดก็ตามจะต้องตกไปอยู่ในเหตุการณ์ที่จำต้องสังหารตนเองไปเสี่ยงอย่างไร้ค่า เพื่อแลกเปลี่ยนกับเหรียญตราที่มิได้มีค่ามากมายไปกว่าการเอาไปแลกเปลี่ยน ‘เหล้าองุ่น’ 1 ขวด

และก็แนวทางหนึ่งที่จะทำให้การศึกไม่ใช่การ ‘รบ’ แต่ว่าเป็นการ ‘ไม่รบ’